วิธีการดูดไขมันด้วยเลเซอร์
การดูดไขมันด้วยเลเซอร์ (Laser Diode Liposuction, Laser-Assisted Liposuction) เป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยให้ผิวหลังดูดไขมันกระชับตัวขึ้นได้ การดูดไขมันด้วยเลเซอร์ เป็นการนำเลเซอร์มาช่วยในการผลิตพลังงานความร้อน ซึ่งเลเซอร์จะสามารถผลิตพลังงานความร้อนได้ที่ระดับอุณหภูมิ 40 – 60 องศาเซลเซียส ด้วยความที่มีอุณภูมิที่ไม่สูงมาก จึงมีข้อเสียคือใช้ระยะเวลาในการรักษานาน เห็นผลช้า ดูดออกมาได้น้อย แต่มีความปลอดภัยสูง
และนวัตกรรมในการดูดไขมันพร้อมยกกระชับผิวอีกวิธีหนึ่ง นอกจากการใช้พลังงานคลื่นความถี่วิทยุและเลเซอร์นั้น คือการใช้พลังงานพลาสมา (Plasma-Assisted Liposuction) ในการสร้างพลังงานความร้อนสูงถึง 85 องศาเซลเซียส หรืออุณหภูมิที่สามารถทำให้เนื้อเยื่อภายใต้ผิวกระชับหดตัวลงได้ในทันที หลังจากใช้พลังงานพลาสมาผิวจะกระชับหดตัวลงทันที โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อและเส้นประสาทบริเวณข้างเคียง และเห็นผลชัดภายในระยะเวลาประมาณ 3 เดือน
ข้อดีของการดูดไขมันแบบ SAL
- สามารถทำลายเซลล์ไขมัน ได้อย่างเฉพาะเจาะจง
- ผิวหลังทำจะเรียบ ไม่เป็นโพรง ไม่เป็นคลื่น ไม่เป็นผิวเปลือกส้ม
- ดูดไขมันได้ปริมาณที่มากกว่าการดูดไขมันแบบดั้งเดิม
ข้อเสียของการดูดไขมันแบบ SAL
- สลายไขมันได้น้อย ทำให้ปริมาณไขมันที่ดูดออกมาได้น้อย
- คนไข้อาจมีอาการเสียเลือดมาก
- ไม่เหมาะกับการดูดไขมันในตำแหน่งที่มีปริมาณไขมันมาก
- เนื้อเยื่อ เส้นเลือด เส้นประสาทข้างเคียงได้รับผลกระทบมาก
- อาจอยู่ในสภาวะเสียเลือดมาก
- มีรอยฟกช้ำตามตัว บอบช้ำมาก บวมมาก
- ใช้เวลาพักฟื้นนาน
- เกิดปัญหาผิวเป็นคลื่น ลอน ไม่เรียบเนียน https://www.theklinique.com/bodytite/